รีวิว ขั้นตอนการสั่ง Pebble จาก Getpebble.com
วันนี้ Comerror จะมารีวิว ขั้นตอนการสั่ง Pebble จากทางเว็บไซต์ของผู้ผลิตโดยตรงครับ ซึ่งเจ้าตัว Pebble เองก็คือ Smartwatch เชื่อมต่อกับ Smartphone ไว้สำหรับแจ้งเตือน Notification ต่างๆจากโทรศัพท์มาสู่เจ้า Pebble ผ่านทาง Bluetooth ครับ และยังรวมถึง App เอนกประสงค์อื่นๆที่ทางผู้ผลิตได้เปิดโอกาสให้นักพัฒนาทั้งหลายได้ทำ App มาใช้งานกับ Pebble ด้วยครับที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ครับ เพราะการออกแบบ ในเรื่องของดีไซน์ ลูกเล่นต่างๆ ระบบการรองรับ การแจ้งเตือน ทางผู้ผลิตก็ทำออกมาได้ดีมากครับ ในบทความนี้ก็จะขอพูดถึงเจ้าตัว Pebble ไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ ก็จะกลับมาเข้าเรื่องในส่วนของขั้นตอนการสั่งซื้อ Pebble จากทางเว็บ getpebble.com กันครับ
*ก่อนอื่นเลยสำหรับผู้ที่จะสั่ง Pebble นี่ควรจะต้องมีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต และเปิดบริการสำหรับชำระสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตที่ตัวบัตร ไว้สำหรับหักเงินค่าเสียหายด้วยนะครับ
ขั้นตอนการสั่ง Pebble
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://getpebble.com/ แล้วคลิกที่ Shop ตัวสีส้มๆท้ายสุดครับ
2. ทำการเลือกชนิดสินค้าที่ต้องการสั่งได้เลยครับ มี Pebble Watch กับ Pebble Steel Watch แล้วทำการเลือกสี และอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องการครับ (ในช่วงที่รีวิวการสั่งซื้อนี้ทาง Pebble เขากำลังลดราคาของ Pebble Watch ครับเหลือ 89 USD จากเดิมราคา 99 USD ครับ) เมื่อเลือกได้แล้วในคลิกที่ปุ่ม Add to cart ครับ
3. หลังจาก Add to cart แล้วจะสังเกตุเห็นได้ว่ามีรูปรถเข็น ขึ้นเลข 1 ใกล้ๆกับปุ่ม Shop นั่นคือรายการที่เราจะ Order ครับ หากท่านไม่ต้องการจะเลือกสินค้าเพิ่มเติมแล้ว ให้ทำการคลิกที่คำว่า Checkout Now เพื่อไปสู่ขั้นตอนการกรอกข้อมูลการจัดส่งครับ
4. เข้าสู่การกรอกข้อมูลผู้ซื้อและที่อยู่สำหรับการจัดส่งสินค้าครับ
ส่วนแรก Shipping Information
Country - ชื่อประเทศครับ (ส่วนนี้ทางเว็บจะใส่มาให้เลยแต่ถ้าเราไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยก็เลือกแล้วเปลี่ยนเองได้ครับ)
Name - ใส่ชื่อจริงและนามสกุลครับ
Address 1 - ใส่ที่อยู่กรอกเรียงลำดับเหมือนที่อยู่บ้านเราเลยครับ (บ้านเลขที่ , ถนน , ซอย , ตำบล , อำเภอ)
Address 2 - สามารถนำที่กรอกในช่องบน หากยาวไปเอามาใส่ที่ช่องนี้ได้ครับ (คำแนะนำการกรอกข้อมูล ให้พิมพ์ทับศัพท์หรือใส่แบบภาษาคาราโอเกะได้เลยครับ เมื่อมาถึงบ้านเราแล้วบริษัทนำส่งเขาจะอ่านออกเอง แต่พยายามอย่ายึดตรรกะศัพท์ตัวเองเกินไปนะครับ เปิดๆดูในเน็ตก่อนก็ได้ว่าเขาเขียนกันยังไงครับ เดี๋ยวจะส่งของกันไม่ถูกที่เอาได้)
City - ใส่ เมือง หรือ เขต ครับ
Region - ใส่ จังหวัด ครับ
Postal Code - ใส่ รหัสไปรษณีย์ ครับ
Email - ใส่ อีเมล์ ที่ใช้งานของเราครับตรงนี้ระบบจะแจ้งข้อมูลการส่งของไปให้เราที่อีเมล์นี้ครับ
Phone - กรอกแบบสากลเลข 0 บ้านเราก็ให้ใส่ +66 ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์จนครบครับ ตัวอย่าง +66812345678
ส่วนที่สอง Shipping Method
เลือกวิธีการส่งของครับมีแบบฟรีกับแบบด่วน แบบฟรีก็หลายสัปดาห์หน่อยครับ ถ้าด่วนก็ 3-5 วันทำการ โดยบริษัท DHL เสียเงินเพิ่มอีก 25 USD หรือประมาณ 800 กว่าบาทครับ แต่ผมเลือกแบบแรกครับ ฟรีๆ ไม่รีบร้อน
ส่วนที่สาม ช่องสีเทาด้านขวา Summary ให้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของจำนวนสินค้าที่จะสั่งและเงินที่จะต้องจ่ายก่อนไปขั้นตอนต่อไปครับ เมื่อถูกต้องเรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ปุ่ม Next - Payment Methods
5. ในส่วนนี้ให้กรอกรายละเอียดของบัญชีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ที่จะทำการชำระค่าสินค้าให้กับ Pebble ให้กรอกในส่วนที่ 2 - Payment Method โดยให้กรอก
Card - หมายเลขหน้าบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต จำนวน 16 หลัก
Expiration - วันหมดอายุของบัตร ใส่ เดือน/ปี ตามที่ระบุบนบัตร
CVC Code - หมายเลขรหัส 3 หลัก ที่ด้านหลังของบัตรครับ
หรือบริการใหม่สามารถจ่ายผ่าน PayPal ได้ครับโดยจะมี เมนู นี้ให้คลิกอยู่ที่ด้านล่างของส่วนนี้ครับ แต่ที่ในภาพที่แสดงนี้จะยังไม่มีเมนูนี้แสดงครับ
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้ทำการกด Place order จากนั้นระบบจะทำการยืนยันตนของบัตรตามสาขาของธนาคารที่ท่านทำบัตรไว้ครับ
6. เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้วทางเว็บ จะแสดงหมายเลข Order รายการสั่งซื้อสินค้าของท่านและข้อมูลนี้เองก็จะส่งไปที่อีเมล์ที่ท่านระบุไว้ด้วยครับ
จากนั้นไปดูกันครับว่าการเลือกส่งแบบ ฟรี จะใช้เวลาการส่งทั้งหมดกี่วันจนถืงมือผมครับ
- เริ่มจากวันที่ 11/4/58 ผมได้ทำการสั่ง Pebble Watch จากเว็บ getppebble.com
- สองวันถัดมา คือวันที่ 13/4/58 ทางเว็บ getpebble.com ได้ส่งอีเมล์มาแจ้งว่าได้ทำการส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว และได้ให้ Tracking Number มาไว้สำหรับตรวจสอบสถานะการส่งสินค้า กับเว็บ singpost.com (สาเหตุที่ส่งช้าไป 2 วันเนื่องจากวันที่ผมสั่งตรงกับวันเสาร์ ซึ่งจะปฏิบัติงานกันในวันปกติทำการครับ ถ้าท่านใดจะสั่งก็คำนึงถึงตรงนี้ด้วยนะครับ)
- เมื่อได้หมายเลข Tracking Number มาแล้วก็ทำการ เอาไปเช็คกับเว็บ singpost.com จนวันที่ 16/4/58 ก็มีรายการเกิดขึ้นแจ้งสถานะการส่งมาที่ประเทศไทยครับ
- จากนั้นรอ 5 วันพอดี วันที่ 21/4/58 ก็ได้นำเลข Tracking Number ดังกล่าวมาเช็คที่ ไปรษณีย์ไทย หรือ track.thailandpost.co.th ก็เห็นว่าสินค้าอยู่ที่ประเทศไทยแล้วครับ แล้วก็รอการนำจ่ายจนถึงมือผมวันที่ 24/4/58 ครับ รวมเวลาทั้งสิ้น 13 วันครับ ก็ถ้าไม่ได้รีบร้อน หรือรีบด่วนที่จะใช้งานก็ ถือว่าไม่นานจนเกินไปครับ ไม่เหมือนสินค้าบางที่หรือบางตัวต้องรอเป็นเดือนๆครับ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Pebble Watch และการสั่งสินค้าครับ
- Pebble Watch ที่สั่งมาอาจโดนค่าภาษี แต่ทั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน กรณีที่ผมสั่งมานี้ก็ไม่โดนค่าภาษีครับ สำหรับผู้โดนมากสุดจะเห็นอยู่ที่ราคา 800 กว่าบาทครับ บางท่านก็ 500 กว่าบาทก็มี อันนี้เป็นค่าภาษีของ Pebble Watch สำหรับ Pebble Steel Watch อันนี้ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะต้องเสียครับเนื่องจากราคาสูงกว่า Pebble Watch รุ่นธรรมดาครับ แต่สำหรับผู้ที่สั่งซื้อช่วงหลังๆนี้ผมคิดว่าน่าจะไม่โดนแล้วครับ
- Pebble มีนโนบายรับคืนสินค้า 30 วัน (Return Policy) ความพึงพอใจของลูกค้าครับ
- การรับประกัน Pebble จะอยู่ที่ 1 ปีครับ หากตัวเครื่องเกิดปัญหา มีข้อผิดพลาดที่ตรงกับเงื่อนไขบริษัท ให้ทำการแจ้งอธิบายรายละเอียดหรือดีที่สุดให้อัดคลิปวีดีโด อาการที่เสียหายแล้วส่งให้ทาง getpebble.com พิจารณาตรวจสอบ จากที่เคยมีผู้ใช้งานแจ้งเคลมไป บริษัทก็ได้ส่งเครื่องใหม่มาให้เลยโดยที่เราไม่ต้องส่งเครื่องเก่ากลับไปครับ แต่กรณีนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะทุกเคสรึเปล่านะครับ
- Pebble ยังไม่รองรับภาษาไทยในเฟิร์มแวร์ของทางผู้ผลิตเอง แต่ก็มีนักพัฒนาทำเฟิร์มแวร์ที่รองรับภาษาไทยได้
วันนี้ก็ขอจบการ รีวิวขั้นตอนการสั่ง Pebble จาก Getpebble.com ไว้เพียงเท่านี้ครับสำหรับท่านที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อ Pebble มาลองเล่นลองใช้กันได้ครับ ผมรับรองว่าจะทำให้การติดต่อสื่อสาร และรับการแจ้งเตือนข่าวสารต่างๆในชีวิตประจำวันของคุณจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและมีสีสัน อย่างแน่นอนครับ
ขอฝากประมวลภาพ Pebble Watch ครับ