เปิดตัวแล้ว Huawei Mate 40 Series และHuawei Mate 40 RS (Porsche) มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 9000 และกล้องหลังที่น่าประทับใจ
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะครับสำหรับสมาร์ทโฟนสเปกจัดเต็ม อย่าง Huawei Mate 40 Series ที่มาด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น คือ Huawei Mate 40 , Huawei Mate 40 Pro และ Huawei Mate 40 Pro+ รวมไปถึงรุ่นพิเศษ อย่าง Huawei Mate 40 RS (Porsche) ที่ร่วมมือกับแบรนด์รถ Porsche นั่นเองครับ
Huawei Mate 40
- ขนาดของตัวเครื่อง 158.6 x 72.5 x 8.8 มม. + น้ำหนัก 188 กรัม
- กรอบตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียม
- การเชื่อมต่อ : รองรับเครือข่าย 5G , 1 SIM( Nano-SIM) / Hybrid Dual SIM (Nano-SIM หรือ dual stand-by) , Bluetooth 5.2 , รองรับ NFC , USB Type-C 3.1 , Wi-Fi , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานที่ระดับ IP68
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว , ความละเอียด 1080×2376 พิกเซล , (402 ppi) , อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz , ระบบสัมผัส 240Hz , รองรับ HDR 10
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 11 ครอบบน Android 10.0 (ไม่มีบริการ Google Play)
- ชิปเซ็ต Kirin 9000 E
- RAM ขนาด 8GB
- ความจุ ขนาด 128GB / 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (รูรับแสง f/1.9) , PDAF , Laser AF + กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16MP (รูรับแสง f/2.2) + กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (รูรับแสง f/2.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom
- กล้องหน้าแบบเจาะรู (ultrawide) ความละเอียด 13MP (รูรับแสง f/2.4)
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- แบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 40W
- มี 5 สี คือ Mystic Silver , White , Black , Green , Yellow
- ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 900 ยูโร หรือประมาณ 33,000 บาท
Huawei Mate 40 Pro
- ขนาดของตัวเครื่อง 162.9 x 75.5 x 9.1 มม. + น้ำหนัก 212 กรัม
- กรอบตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียม
- การเชื่อมต่อ : รองรับเครือข่าย 5G , 1 SIM( Nano-SIM) / Hybrid Dual SIM (Nano-SIM หรือ dual stand-by) , Bluetooth 5.2 , รองรับ NFC , USB Type-C 3.1 , Wi-Fi
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานที่ระดับ IP68
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว , ความละเอียด 1344 x 2772 พิกเซล , อัตราส่วน 18.5: 9(456 ppi) , อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz , ระบบสัมผัส 240Hz , รองรับ HDR 10
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 11 ครอบบน Android 10.0 (ไม่มีบริการ Google Play)
- ชิปเซ็ต Kirin 9000
- RAM ขนาด 8GB
- ความจุ ขนาด 256GB / 512GB
- กล้องหลัง 3 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (รูรับแสง f/1.9) , PDAF , Laser AF + กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 20MP (รูรับแสง f/1.8) , PDAF + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (รูรับแสง f/3.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom 5 เท่า
- กล้องหน้าคู่ แบบเจาะรู : กล้อง ultrawide ความละเอียด 13MP (รูรับแสง f/2.4) + เซ็นเซอร์ TOF 3D
- มีลำโพงสเตอริโอ
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ , Face ID
- แบตเตอรี่ 4,400 mAh สามารถใช้งานได้นาน 97 ชั่วโมง , รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 66W , แบบไร้สายที่ 50W , แบบไร้สายย้อนกลับที่ 5W
- มี 5 สี คือ Mystic Silver , White , Black , Green , Yellow
- ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,199 ยูโร หรือประมาณ 43,500 บาท
Huawei Mate 40 Pro+
- ขนาดของตัวเครื่อง 162.9 x 75.5 x 8.8 มม. + น้ำหนัก 230 กรัม
- กรอบตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียม
- การเชื่อมต่อ : รองรับเครือข่าย 5G , 1 SIM( Nano-SIM) / Hybrid Dual SIM (Nano-SIM หรือ dual stand-by) , Bluetooth 5.2 , รองรับ NFC , USB Type-C 3.1 , Wi-Fi
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานที่ระดับ IP68
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว , ความละเอียด 1344 x 2772 พิกเซล , อัตราส่วน 18.5: 9(456 ppi) , อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz , ระบบสัมผัส 240Hz , รองรับ HDR 10
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 11 ครอบบน Android 10.0 (ไม่มีบริการ Google Play)
- ชิปเซ็ต Kirin 9000
- RAM ขนาด 12GB
- ความจุ ขนาด 256GB
- กล้องหลัง 5 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (รูรับแสง f/1.9) , PDAF , Laser AF , OIS + กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 20MP (รูรับแสง f/2.4) , PDAF + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (รูรับแสง f/2.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom 3 เท่า + กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP (รูรับแสง f/4.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom 10 เท่า + เซ็นเซอร์ TOF 3D
- กล้องหน้าคู่ แบบเจาะรู : กล้อง ultrawide ความละเอียด 13MP (รูรับแสง f/2.4) + เซ็นเซอร์ TOF 3D
- มีลำโพงสเตอริโอ
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ , Face ID
- แบตเตอรี่ 4,400 mAh รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 66W , แบบไร้สายที่ 50W , แบบไร้สายย้อนกลับที่ 5W
- มี 2 สี คือ Ceramic White , Ceramic Black
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,599 ยูโร หรือประมาณ 58,000 บาท
Huawei Mate 40 RS (Porsche)
- ขนาดของตัวเครื่อง 162.9 x 75.5 x 10.1 มม. + น้ำหนัก 234 กรัม
- การเชื่อมต่อ : รองรับเครือข่าย 5G , 1 SIM( Nano-SIM) / Hybrid Dual SIM (Nano-SIM หรือ dual stand-by) , Bluetooth 5.2 , รองรับ NFC , USB Type-C 3.1 , Wi-Fi
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐานที่ระดับ IP68
- หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.76 นิ้ว , ความละเอียด 1344 x 2772 พิกเซล , อัตราส่วน 18.5: 9(456 ppi) , อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz , ระบบสัมผัส 240Hz , รองรับ HDR 10
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 11 ครอบบน Android 10.0 (ไม่มีบริการ Google Play)
- ชิปเซ็ต Kirin 9000
- RAM ขนาด 12GB
- ความจุ ขนาด 512GB
- กล้องหลัง 5 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (รูรับแสง f/1.9) , PDAF , Laser AF , OIS + กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 20MP (รูรับแสง f/1.8) , PDAF + กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (รูรับแสง f/2.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom 3 เท่า + กล้อง Telephoto (periscope) ความละเอียด 8MP (รูรับแสง f/4.4) , PDAF, OIS , Optical Zoom 10 เท่า + เซ็นเซอร์ TOF 3D
- กล้องหน้าคู่ แบบเจาะรู : กล้อง ultrawide ความละเอียด 13MP (รูรับแสง f/2.4) + เซ็นเซอร์ TOF 3D
- มีลำโพงสเตอริโอ
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ , Face ID
- แบตเตอรี่ 4,400 mAh รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 66W , แบบไร้สายที่ 50W , แบบไร้สายย้อนกลับที่ 5W
- มี 3 สี คือ Ceramic White , Ceramic Black , Collector Edition
- ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,300 ยูโร หรือประมาณ 83,500 บาท