เปิดตัว ASUS Zenfone 8 ขนาดเล็กกระทัดรัด สเปกเรือธง และ ASUS Zenfone 8 Flip กล้องหลังพลิกไปกลับได้
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะครับสำหรับสมาร์ทโฟน ASUS Zenfone 8 ขนาดเล็กกระทัดรัด สเปกเรือธง และ ASUS Zenfone 8 Flip กล้องหลังพลิกไปกลับได้ โดยทั้งคู่มาในดีไซน์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และมีรายละเอียดคุณสมบัติดังนี้
ASUS Zenfone 8
- มี 3 สี : Obsidian Black , Horizon Silver และ Moonlight White
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP65 / IP68 (ลึก 1.5 เมตรเป็นเวลา 30 นาที)
- ขนาดของตัวเครื่อง : 148 x 68.5 x 8.9 มม.
- น้ำหนัก 169 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ Android 11
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888
- RAM ขนาด 6GB / 8GB / 12GB / 16GB แบบ
- ความจุ ขนาด 128GB / 256GB แบบ UFS 3.1 (ไม่รองรับช่องเสียบการ์ด microSD)
- หน้าจอแสดงผล AMOLED , ขนาด 5.9 นิ้ว , ความละเอียด FHD+(2400 x 1080) , อัตราการรีเฟรชเรท 120Hz , อัตราส่วน 20: 9 , ความสว่างสูงสุด 1100 nits , อัตราการสุ่มตัวอย่างสัมผัส 240Hz , รองรับ HDR 10 , HDR10+ และใช้กระจกป้องกนแบบ Corning Gorilla Glass Victus
- กล้องหลัง 2 ตัว : กล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX686 ความละเอียด 64 MP (รูรับแสง f/1.8) , PDAF + กล้อง Ultrawide เซ็นเซอร์ IMX363 ความละเอียด 12MP (รูรับแสง f/2.2) , Dual PDAF + ไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า เซ็นเซอร์ IMX663 ความละเอียด 12MP
- มีลำโพงสเตอริโอคู่พร้อม Dirac HD Sound
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi , วิทยุ FM , dual-SIM , 5G , Bluetooth 5.2 , NFC , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. , พอร์ต USB-C
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh , รองรับการชาร์จไวที่ 30W (รองรับ Quick Charge 4.0 และ USB Power Delivery PPS ด้วย)
- ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 599 ยูโร หรือประมาณ 22,xxx บาท วางจำหน่ายแล้วในโซนยุโรปและไต้หวัน
ASUS Zenfone 8 Flip
- มี 2 สี : Glacier Silve และ Galactic Black
- ขนาดของตัวเครื่อง : 165.04 x 77.28 x 9.6 มม.
- น้ำหนัก 230 กรัม
- ระบบปฏิบัติการ Android 11
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888
- RAM ขนาด 8GB แบบ
- ความจุ ขนาด 128GB / 256GB แบบ UFS 3.1 (รองรับช่องเสียบการ์ด microSD สูงสุด 2 TB)
- หน้าจอแสดงผล AMOLED , ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด FHD+(2400 x 1080) , อัตราการรีเฟรชเรท 90Hz , อัตราส่วน 20: 9 , ความสว่างสูงสุด 700 nits , อัตราการสุ่มตัวอย่างสัมผัส 200Hz , รองรับ HDR10+ และใช้กระจกป้องกนแบบ Corning Gorilla Glass 6
- กล้องหลัง/หน้า 3 ตัว : กล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX686 ความละเอียด 64 MP (รูรับแสง f/1.8) , PDAF + กล้อง Ultrawide เซ็นเซอร์ IMX363 ความละเอียด 12MP (รูรับแสง f/2.2) , Dual PDAF + กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP , ซูม Optical 3 เท่า , ซูม Digital 12 เท่า + ไฟแฟลช LED
- มีลำโพงสเตอริโอคู่พร้อม Dirac HD Sound
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi , dual-SIM , 5G , Bluetooth 5.2 , NFC , พอร์ต USB-C
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh , รองรับการชาร์จไวที่ 30W (รองรับ Quick Charge 4.0 และ USB Power Delivery PPS ด้วย)
- ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 799 ยูโร หรือประมาณ 30,xxx บาท วางจำหน่ายแล้วในโซนยุโรปและไต้หวัน