เปิดตัว Vivo X60 และVivo X60 Pro เวอร์ชั่น Global วางขายทั่วโลก
หลังจากที่ Vivo ได้เปิดตัว Vivo X60 และVivo X60 Pro ไปอย่างเป็นทางการในประเทศจีนแล้ว ล่าสุดก็ได้เปิดตัว Vivo X60 และVivo X60 Pro ในเวอร์ชั่น Global วางขายทั่วโลกอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งคุณสมบัติก็จะแตกต่างกันกับเวอร์ชั่นที่เปิดตัวในประเทศจีนบางส่วน ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
คุณสมบัติที่เหมือนกันของ Vivo X60 และVivo X60 Pro
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870
- RAM ขนาด 12GB
- ความจุ ขนาด 256GB
- แบตเตอรี่ 4,300 mAh , รองรับการชาร์จไวที่ 33W
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย OriginOS
- หน้าจอแสดงผลแบน แบบ AMOLED , ขนาด 6.56 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2376 พิกเซล), อัตราการรีเฟรชเรทที่ 120Hz
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP(รูรับแสง f / 2.45 )
- การเชื่อมต่อ : เครือข่าย 5G , Bluetooth 5.1 , Wi-Fi , NFC , Dual SIM (Nano-SIM / สแตนด์บายคู่) , USB Type-C , USB On-The-Go
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบบออปติคอล + จดจำใบหน้า
- มีลำโพง
- มี 2 สี : สีดำ Midnight Black , สีน้ำเงิน Shimmer Blue
Vivo X60
- ขนาดของตัวเครื่อง 159.63 x 75.01 x 7.36 มม. ( สีดำ Midnight Black ) / 159.63 x 75.01 x 7.4 มม. ( สีน้ำเงิน Shimmer Blue )
- น้ำหนัก 176 กรัม ( สีดำ Midnight Black ) / 177 กรัม ( สีน้ำเงิน Shimmer Blue )
- กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเลนส์แบรนด์ ZEISS : กล้องหลัก เซ็นเซอร์ Sony IMX598 ความละเอียด 48 MP(รูรับแสง f / 1.79 ) + กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 MP (รูรับแสง f / 2.46 ) , ซูมออปติคอล 2 เท่า + กล้อง ultrawide ความละเอียด 13 MP(รูรับแสง f / 2.2 ) , 120 องศา + แฟลช LED
- ราคา 2,699 ริงกิต หรือประมาณ 20,xxx บาท
Vivo X60 Pro
- ขนาดของตัวเครื่อง 158.58 x 73.24 x 7.69 มม. ( สีน้ำเงิน Shimmer Blue ) / 158.58 x 73.24 x 7.59 มม. ( สีดำ Midnight Black )
- น้ำหนัก 177 กรัม ( สีดำ Midnight Black ) / 179 กรัม ( สีน้ำเงิน Shimmer Blue )
- กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมเลนส์แบรนด์ ZEISS : กล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX598 ความละเอียด 48 MP(รูรับแสง f / 1.48 ) + กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 MP(รูรับแสง f / 2.46 ) , ซูมออปติคอล 2 เท่า + กล้อง ultrawide ความละเอียด 13 MP(รูรับแสง f / 2.2 ) , 120 องศา + แฟลช LED
- ราคา 3,299 ริงกิต หรือประมาณ 24,xxx บาท
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับราคาในประเทศไทยคงต้องรอลุ้นกันอีกทีนะครับ