เปิดตัว Apple Watch Series 8 อย่างเป็นทางการ มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย , การตรวจจับการชน และใช้ชิป S8 ใหม่
ในงาน Apple Event Far Out ของปี 2022 นี้ นอกจากเปิดตัวสมาร์ทโฟน iPhone 14 Series อย่างเป็นทางการแล้วก็ยังมี Apple Watch Series 8 ที่เปิดตัวพร้อมกันในงานด้วย โดย Apple Watch Series 8 เป็นรุ่นที่สืบทอดต่อจาก Apple Watch Series 7 ของปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่ง Apple Watch Series 8 ก็ยังคงมาพร้อมกับดีไซน์โดยรวมเหมือนกันกับรุ่นก่อน แต่จะมีการอัพเกรดเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามา อย่าง ฟีเจอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย , ฟีเจอร์การตรวจจับการชน และฟีเจอร์ Low Power ที่ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมงเลยทีเดียว
คุณสมบัติของ Apple Watch Series 8
ตัวเรือนอะลูมิเนียม Aluminium
- ตัวเรือนมี 2 ขนาด : ขนาด 41 มม. และขนาด 45 มม.
- น้ำหนัก : (ขนาด 41 มม.) 32 กรัม / (ขนาด 45 มม.) 38.8 กรัม
- กันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP6X (ลึก 50 เมตร) และได้รับการรับรองจาก ECG
- หน้าจอแสดงผล Retina แบบ LTPO OLED (แสดงผลตลอดเวลา) , ความสว่างสูงสุด 1,000 nits , ความละเอียด 484 x 396 พิกเซล , ความหนาแน่น 326 ppi
- ระบบปฏิบัติการ watchOS 9.0
- ชิปเซ็ต Apple S8
- RAM ขนาด 1GB
- ความจุ ขนาด 32GB (eMMC 5.1)
- มีลำโพงในตัว
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi , Bluetooth 5.0 , GPS , NFC , รองรับการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Cellular นอกประเทศได้
- มีฟีเจอร์ : การตรวจจับอุณหภูมิ แม่นยำถึง 0.1 องศาเซลเซียส (จะสแกนอุณหภูมิผิวในทุกๆ 5 วินาที) , การตรวจจับการชน (เมื่อตรวจพบการชนจะโทรแจ้งบริการฉุกเฉินและผู้ติดต่อฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ) , SOS ฉุกเฉิน (กดปุ่มด้านข้างค้างไว้เพื่อแชร์ตำแหน่งในกรณีฉุกเฉิน) , วัดระดับออกซิเจนในเลือด , วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , ติดตามการนอนหลับ , ติดตามการตกไข่และช่วงการตกไข่ของผู้หญิงได้
- แบตเตอรี่ , รองรับการชาร์จไวแบบไร้สาย , สามารถใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง (แสดงผลตลอดเวลา) / มีฟีเจอร์ Low Power ที่ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมง
- มีหน้าปัดให้เลือกลากหลาย
- มี 4 สี : สีสตาร์ไลท์ Starlight , สีมิดไนท์ Midnight , สีเงิน Silver และสีแดง (PRODUCT)RED
ตัวเรือนสแตนเลสสตีล Stainless Steel
- ตัวเรือนมี 2 ขนาด : ขนาด 41 มม. และขนาด 45 มม.
- น้ำหนัก : (ขนาด 41 มม.) 42.3 กรัม / (ขนาด 45 มม.) 51.5 กรัม
- กันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP6X (ลึก 50 เมตร) และได้รับการรับรองจาก ECG
- หน้าจอแสดงผล Retina แบบ LTPO OLED (แสดงผลตลอดเวลา) , ความสว่างสูงสุด 1,000 nits , ความละเอียด 484 x 396 พิกเซล , ความหนาแน่น 326 ppi
- ระบบปฏิบัติการ watchOS 9.0
- ชิปเซ็ต Apple S8
- RAM ขนาด 1GB
- ความจุ ขนาด 32GB (eMMC 5.1)
- มีลำโพงในตัว
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi , Bluetooth 5.0 , GPS , NFC , รองรับการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Cellular นอกประเทศได้
- มีฟีเจอร์ : การตรวจจับอุณหภูมิ แม่นยำถึง 0.1 องศาเซลเซียส (จะสแกนอุณหภูมิผิวในทุกๆ 5 วินาที) , การตรวจจับการชน (เมื่อตรวจพบการชนจะโทรแจ้งบริการฉุกเฉินและผู้ติดต่อฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ) , SOS ฉุกเฉิน (กดปุ่มด้านข้างค้างไว้เพื่อแชร์ตำแหน่งในกรณีฉุกเฉิน) , วัดระดับออกซิเจนในเลือด , วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , ติดตามการนอนหลับ , ติดตามการตกไข่และช่วงการตกไข่ของผู้หญิงได้
- แบตเตอรี่ , รองรับการชาร์จไวแบบไร้สาย , สามารถใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง (แสดงผลตลอดเวลา) / มีฟีเจอร์ Low Power ที่ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 36 ชั่วโมง
- มีหน้าปัดให้เลือกลากหลาย
- มี 3 สี : สีเงิน Silver , สีกราไฟต์ Graphite และสีทอง Gold
สำหรับราคาของ Apple Watch Series 8 (รุ่น GPS) เริ่มต้นอยู่ที่ 15,900 บาท / (รุ่น GPS + Cellular) เริ่มต้นอยู่ที่ 19,900 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 เดือนกันยายน 2022 เป็นต้นไป
ที่มา : apple