ComError.com » มือถือ/แท็บเล็ต » เปิดตัวสมาร์ทโฟน Infinix Note 40 Series อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ในราคาเริ่มต้น 8,999 บาท
เปิดตัวสมาร์ทโฟน Infinix Note 40 Series อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ในราคาเริ่มต้น 8,999 บาท
วันที่โพสต์: 6 พฤษภาคม 2024
Infinix ประเทศไทย ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Infinix Note 40 Series อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเปิดตัวด้วยกันทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Infinix Note 40 Pro (4G) และ Infinix Note 40 Pro+ (5G) ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่น Infinix Note 40 Pro (4G) มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลโค้ง 3 มิติแบบ AMOLED แบตเตอรี่รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 70W และใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 Ultimate ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่น Infinix Note 40 Pro+ (5G) มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลโค้ง 3 มิติแบบ AMOLED แบตเตอรี่รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 100W และใช้ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 7020
Infinix Note 40 Pro (4G)
- หน้าจอแสดงผลโค้ง 3D แบบ AMOLED , ขนาด 6.78 นิ้ว , ความละเอียด FHD+ (2436 × 1080 พิกเซล) , ความสว่างสูงสุด 1300nits , อัตราการรีเฟรชเรทที่ 120Hz และใช้กระจกป้องกันแบบ Gorilla Glass
- ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 Ultimate
- RAM ขนาด 8GB แบบ LPDDR4x , รองรับ RAM เสมือนสูงสุด 8GB
- ความจุ ขนาด 256GB แบบ UFS 2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบบน XOS 14
- กล้องหลัง 2 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 108MP (รูรับแสง f/1.75) + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (รูรับแสง f/2.4) +ไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (รูรับแสง f/2.2)
- มีลำโพงสเตอรีโอคู่ , รองรับระบบเสียง Dolby ATMOS , Hi-Res Audio
- การเชื่อมต่อ : 4G , Wi-Fi , Bluetooth , NFC , USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh , รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 70W / ชาร์จเพียง 20 นาที ได้แบต 50% , รองรับการชาร์จไวแบบไร้สาย MagCharge ที่ 20W , รองรับ Bypass Charge
- มาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ IP54
- ขนาดของตัวเครื่อง 164.35 x 74.6 x 7.75 มม.
- น้ำหนัก 190 กรัม
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ + สแกนใบหน้า
- มี 2 สี : สีเขียววินเทจ Vintage Green (หนัง) และสีไททันโกลด์ Titan Gold
- ราคา ราคา 8,999 บาท (เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น)
Infinix Note 40 Pro+ (5G)
- หน้าจอแสดงผลโค้ง 3D แบบ AMOLED , ขนาด 6.78 นิ้ว , ความละเอียด FHD+ (2436 × 1080 พิกเซล) , ความสว่างสูงสุด 1300nits , อัตราการรีเฟรชเรทที่ 120Hz และใช้กระจกป้องกันแบบ Gorilla Glass
- ชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 7020 (6 นาโนเมตร)
- RAM ขนาด 12GB แบบ PDDR4x , รองรับ RAM เสมือน 2 เท่าสูงสุด 12GB
- ความจุ ขนาด 256GB แบบ UFS 2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบบน XOS 14
- กล้องหลัง 3 ตัว : กล้องหลัก ความละเอียด 108MP (รูรับแสง f/1.75) , PDAF , OIS , ซูมในเซ็นเซอร์สูงสุด 3 เท่า + กล้อง Macro ความละเอียด 2MP (รูรับแสง f/2.4) + กล้อง เซ็นเซอร์ Depth ความละเอียด 2MP + ไฟแฟลช LED
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (รูรับแสง f/2.2)
- มีลำโพงสเตอรีโอคู่ , รองรับระบบเสียง Dolby ATMOS , Hi-Res Audio
- การเชื่อมต่อ : 5G , Wi-Fi , Bluetooth , NFC , USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4,600mAh (ชิป Cheetah X1) , รองรับการชาร์จไวแบบมีสายที่ 100W / ชาร์จเพียง 12 นาที ได้แบต 50% / ชาร์จเพียง 5 นาที สามารถเล่นเกมได้นาน 3 ชั่วโมงหรือเล่นวิดีโอได้นานเกือบ 7 ชั่วโมง , รองรับการชาร์จไวแบบไร้สาย MagCharge ที่ 20W , รองรับ Bypass Charge
- มาตรฐานการกันน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ IP53
- ขนาดของตัวเครื่อง 164.28 x 74.5 x 8.09 มม.
- น้ำหนัก 196 กรัม
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ + สแกนใบหน้า
- มีระบบระบายความร้อนห้องไอน้ำขนาดใหญ่ (3,753 มม.) และมีแผ่นกราไฟท์ ที่จะช่วยลดอุณหภูมิของชิปเซ็ตลง 7°C
- มี 2 สี : สีเขียววินเทจ Vintage Green (หนัง) และสีออบซิเดียนแบล็ค Obsidian Black
- ราคา 11,999 บาท
ที่มา : InfinixMobileThailand , infinixmobility
คำที่เกี่ยวข้อง
บทความล่าสุด
พูดอะไรเกี่ยวกับบทความนี้