วิธีแก้ไวรัสซ่อนไฟล์ซ่อนโฟลเดอร์ (File & Folder)
ไวรัสซ่อนไฟล์(File)ซ่อนโฟลเดอร์(Folder) เชื่อว่าหลายท่านคงต้องเคยเจอและประสบกับปัญหาเหล่านี้ ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเกิดขึ้นกับแฟลชไดรฟ์(Flash Drive) เมื่อเวลาที่ท่านนำมันไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ที่มีไวรัสตัวนี้อยู่ แล้วพอนำกลับมาเปิดที่คอมพิวเตอร์ของท่านอีกครั้งก็จะพบว่าไม่มีไฟล์ใดๆในแฟลชไดรฟ์เลย แต่ถ้าดูปริมาณเนื้อที่เก็บข้อมูลของแฟลชไดรฟ์ก็จะพบว่ามีการใช้งานเนื้อที่อยู่แต่พอเข้าไปดูในไดรฟ์กลับไม่มีไฟล์ หรือในบางท่านอาจจะพบว่ามีโฟลเดอร์งานของท่านอยู่แต่ทำไมมันมีลักษณะเป็นแบบ ช็อตคัต (Shortcut) ซึ่งไฟล์เหล่านั้นแหละคือตัวไวรัส เจ้าปัญหานั่นเอง ทางที่ดีไม่ควรไปคลิกที่ไฟล์ช็อตคัตเหล่านั้น เพราะจะไปเป็นการรันหรือเริ่มต้นทำงานของไวรัสพวกนั้น
ในภาพนี้จะเห็นว่ามีการใช้เนื้อที่ในไดรฟ์ F: ซึ่งเป็นไดรฟ์ของแฟลชไดรฟ์ซึ่งมีไฟล์งานเราอยู่
แต่พอเมื่อเราคลิกเข้าไปในไดรฟ์ F: ปรากฏว่าไม่มีไฟล์ใดๆอยู่เลย
แต่ถ้าเราทำการตั้งค่าใน Folder Option ให้โชว์โฟลเดอร์ที่ซ่อนอยู่ เราก็จะเห็นว่าไฟล์ต่างๆในแฟลชไดรฟ์นั้นยังอยู่แต่โดนไวรัสทำการซ่อนนั่นเอง(โฟลเดอร์และไฟล์เป็นรูปจางๆ)
โดยที่วิธีการแก้ไขและลบไวรัสซ่อนไฟล์ก็มีวิธีการดังนี้ครับ
1. ให้ทำการเปิด Command Prompt โดยไปที่ Start > Run... แล้วพิมพ์ cmd กดปุ่ม Enter หรือกดปุ่ม Windows + R พิมพ์ cmd
2. เมื่อแสดงหน้าต่าง cmd แล้วให้ทำการตรวจสอบว่าแฟลชไดรฟ์ของท่านอยู่ที่ไดรฟ์อะไร ในตัวอย่างอยู่ที่ไดรฟ์ F ก็ให้ท่านพิมพ์คำสั่ง F: แล้วกดปุ่ม Enter แต่ถ้าแฟลชไดรฟ์ของท่านอยู่ที่ไดรฟ์อื่นก็ให้เปลี่ยนตามไดรฟ์ครับ
3. จากนั้นให้ท่านทำการพิมพ์คำสั่งในการลบไวรัสซ่อนโฟลเดอร์ ดังนี้ครับ attrib -s -h -r -a /s /d จากนั้นกดปุ่ม Enter (เว้นช่องไฟ 1 ช่องในแต่ละคำสั่งครับ)
จะสังเกตุเห็นได้ว่าโฟลเดอร์และไฟล์ที่ถูกไวรัสซ่อนไว้ก็จะแสดงออกมาตามปกติ และหากยังพบว่ามีโฟลเดอร์หรือไฟล์ที่เป็นรูปช็อตคัตอยู่ก็ให้ทำการลบโฟลเดอร์และไฟล์เหล่านั้นได้เลย
ข้อควรระวัง
- หากท่านพบว่าในแฟลชไดรฟ์ของท่านมีโฟลเดอร์และไฟล์ที่มีลักษณะเป็นช็อตคัต ไม่ควรทำการคลิกหรือพยายามที่จะเปิดไฟล์เหล่านั้นโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเป็นแหล่งกระจายไวรัสตัวนี้ได้ทันที
- เมื่อท่านต้องการที่จะทำลายและลบไวรัสซ่อนไฟล์ซ่อนโฟล์เดอร์นี้ แนะนำว่าให้ท่านควรนำไปทำกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ติดไวรัสตัวนี้ และเมื่อทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้วควรทำการแบ็คอัพไฟล์(Backup) และทำการฟอร์แมต(Format)แฟลชไดรฟ์ เพื่อเป็นการล้างแฟลชไดรฟ์ของท่านให้สะอาด 100% (แต่อาจจะไม่ต้องทำก็ได้ครับหากยังไม่มีความสุ่มเสี่ยงมากเกินไป)
