มาดูอาการและสัญญาณที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ iPhone หรือ iPad ของคุณเรื่อมเสื่อมแล้ว
โดยธรรมชาติของแบตเตอรี่แล้วย่อมมีการเสื่อมสภาพลงตามวันและเวลาการใช้งาน นั่นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ที่การใช้งาน ดูแลรักษาของตัวผู้ใช้เองด้วยว่าใช้กันในระดับไหน ถ้าวันๆนึงเสียบชาร์จบ่อยนั่นก็หมายความว่าเราใช้งานบ่อยจนแบตหมดเราจึงชาร์จนั่นก็คือการทำงานของแบตที่ต้องรับบทหนักต่อวันนั่นเอง ซึ่งแต่ละคนก็ใช้งานหนักเบาไม่เหมือนกัน ดังนั้นการที่จะเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแบตเสื่อมนั่นคงเป็นไปไม่ได้ หากเว้นซะแต่ว่าจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง
เรามาดูอาการหรือสัญญาณที่จะแสดงออกมาเมื่อแบตของเราเริ่มเสื่อม
- แบตเตอรี่เริ่มหมดเร็ว แน่นอนข้อนี้ต้องเจอกันทุกคนและจะเจอกับผู้ที่เสียบชาร์จบ่อยๆก่อนนั่นเอง เนื่องจากการชาร์จบ่อยๆจนครบจำนวน Battery Charge Cycle ความสามารถในการเก็บประจุก็จะค่อยๆลดลงถึงแม้ตัวเลขที่แสดงบนหน้าจอว่า 100% เต็มแต่การใช้งานจริงอาจจะแค่ 80% เท่านั้น
- ชาร์จไม่เข้าหรือบางทีก็เข้าแต่ต้องเสียบทิ้งไว้นานๆ อาการนี้เราต้องเช็ค Adapter และสาย USB ก่อนนะครับว่าเสียหรือขาดไหม หากยังไม่เข้าก็ลองยืมของคนอื่นที่เขาชาร์จได้ปกติมาเสียบดูใหม่อีกที ถ้ายังนิ่งสนิทอยู่ก็สันนิษฐานไว้ได้เลยครับว่าแบตของเราเริ่มจะอำลาโลกแล้ว
- ตัวเลขเปอร์เซ็นต์แบตแสดงค่าเลขไม่คงที่ ตัวอย่างนะครับอย่างเช่นเราเสียบชาร์จทิ้งไว้จนเต็ม 100% แล้วจากนั้นก็ถอดสายออกแล้วนำไปใช้งาน เพียงแค่อาจโทรหรือเล่นแอพแค่ไม่กี่นาทีพอกลับมาดูอีกทีปรากฏว่าเลขลดเหลือ 80% ซึ่งมันผิดจากแต่ก่อนที่ลดเร็วมาก หรือเราใช้งานเสร็จอยู่ที่ 80% แต่พอหลังจากนั้นมาปลดล๊อคหน้าจอเพื่อใช้งานใหม่ตัวเลขกลับแสดงค่าเป็น 99% นี่ก็คืออาการบ่งบอกความเสื่อมของแบตเช่นกัน **สำหรับผู้ที่เจอปัญหานี้ให้ลองทดสอบแบตได้โดยการรีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง กดปุ่ม Home + Sleep ค้างไว้พร้อมกันจนหน้าจอดับแล้วรอให้ขึ้นรูปแอปเปิ้ลใหม่อีกทีนึงครับถ้าหลังจากเปิดมาใหม่แล้วแบตแสดงเลขที่ 100% แล้วลดช้าเหมือนปกตินั่นก็ไม่ต้องกังวลใดใดครับ
- ชาร์จเต็มเร็วเกินกว่าปกติ ประเภทที่ว่า 1 ชั่วโมงเต็ม 100% แล้วซึ่งโดยปกติ iPhone ที่ชาร์จกับ Adapter ที่มาจากโรงงาน ถ้าเริ่มจาก 0 ก็จะโดยประมาณ 2-3 ชั่วโมงหรืออาจมากกว่านั้นนิดหน่อย ถ้าหากว่าเครื่องของคุณมีอาการชาร์จแล้วเต็มเร็วเกินไปนั่นก็สันนิษฐานได้ว่าแบตของคุณเริ่มเสื่อมแล้วเช่นกัน **ในอีกกรณีถ้าคุณไม่ได้ชาร์จผ่าน Adapter โรงงานที่แถมมากับเครื่องแล้ว คุณอาจจะชาร์จจากคอมพิวเตอร์นั่นก็อาจจะทำให้การชาร์จมาการยืดเวลาออกไป หรือหากคุณนำ Adapter ของ iPad มาเสียบชาร์จกับ iPhone ก็จะทำให้การชาร์จนั้นเร็วขึ้นครับเนื่องจากจำนวนวัตต์ที่มากกว่า ดังนั้นให้คุณเช็คกับการใช้อุปกรณ์ชาร์จในชีวิตประจำวันของคุณเองเป็นตัวเช็คและตรวจสอบครับ ซึ่งหากแสดงอาการผิดปกติยังไงตัวผู้ใช้เองก็จะเป็นผู้รู้ดีที่สุดครับว่าเปลี่ยนไปไหม
แบตเตอรี่ที่มีอายุนานๆที่ไม่ได้แสดงอาการใดๆข้างต้นนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เสื่อมนะครับหากแต่ว่าความสามารถในการเก็บประจุนั้นลดลงไปตามการใช้งานและอายุของแบตครับ และในการใช้งานของผู้ใช้เองก็มีส่วนช่วยในการถนอมแบตเช่นกันครับ การชาร์จบ่อยๆ, การชาร์จในสถานที่มีอุณหภูมิสูง, การชาร์จไปแล้วเล่นไป, การใช้จนแบตเหลือศูนย์ หรือจนเครื่องดับ ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นการปฏิบัติที่ทำร้ายแบตเตอรี่ให้มีอายุที่สั้นลง ยังไงก็ลองนำไปตรวจสอบตรวจเช็คกันดูนะครับสำหรับผู้ที่กำลังสงสัยหรือประสบปัญหานี้อยู่ หากแบตของคุณเสื่อมจริงแล้วหมดประกันแล้วก็สามารถหาร้านที่ไว้วางใจได้ทำการเปลี่ยนใหม่ก็สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมแล้วครับ