เปิดตัว Apple Watch Ultra อย่างเป็นทางการ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 49 มม. และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมง เหมาะกับสายลุยๆใช้งานหนัก

หนึ่งใน Apple Watch ที่เปิดตัวในงาน Apple Event Far Out ของปี 2022 นี้ น่าสนใจไม่แพ้ Apple Watch Series 8 กับ Apple Watch SE 2 รุ่นใหม่เลยนั่นก็คือ Apple Watch Ultra โดยทุกคนอาจจะรู้จัก Apple Watch Ultra กันในชื่อ Apple Watch Pro (ชื่อตามข่าวลือ) ซึ่ง Apple Watch Ultra รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 49 มม. , แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมง และอื่นๆอีกหลายอย่างไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง

คุณสมบัติของ Apple Watch Ultra

• ตัวเรือนขนาด 49 x 44 x 14.4 มม. (49 มม.)
• น้ำหนัก 61.3 กรัม
• กันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP6X และได้รับการรับรองจาก ECG ของ MIL-STD 810H
• ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน WR100 (กันน้ำ 100 เมตร) และ EN 13319 (ดำน้ำ 40 เมตร) ซึ่งเป็นมาตรฐานวัดความลึกของนักดำน้ำระดับสากล , สามารถใช้สำหรับกีฬาทางน้ำ เช่น ไคท์เซิร์ฟ และเวคบอร์ด หรือดำน้ำ ซึ่ง Apple Watch Ultra จะแสดงเวลา ความลึก อุณหภูมิของน้ำ ระยะเวลาใต้น้ำด้วย
• หน้าจอแสดงผลแบบแบน Retina แบบ LTPO OLED (แสดงผลตลอดเวลา) , ความสว่างสูงสุด 2,000 nits , ความละเอียด 502 x 410 พิกเซล , ความหนาแน่น 338 ppi
• หน้าจอแสดงผลใช้กระจกหน้าเป็นแก้วคริสตัลแซฟไฟร์ sapphire crystal , กระจกหลังเป็นเซรามิก และกรอบเป็นไทเทเนียม
• ระบบปฏิบัติการ watchOS 9.0
• ชิปเซ็ต Apple S8
• ความจุ ขนาด 32GB
• มีลำโพงคู่ (86 เดซิเบล) อยู่ที่ขอบด้านซ้ายของตัวเรือน
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi , Bluetooth 5.3 , GPS (L1 และ L5 ช่วยบอกตำแหน่งที่แม่นยำมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา) , NFC , รองรับการเชื่อมต่อกับสัญญาณ Cellular นอกประเทศได้ , รองรับแอพ Oceanic+
• มีฟีเจอร์ : การตรวจจับอุณหภูมิ แม่นยำถึง 0.1 องศาเซลเซียส (จะสแกนอุณหภูมิผิวในทุกๆ 5 วินาที) , การตรวจจับการชน (เมื่อตรวจพบการชนจะโทรแจ้งบริการฉุกเฉินและผู้ติดต่อฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ) , SOS ฉุกเฉิน (กดปุ่มด้านข้างค้างไว้เพื่อแชร์ตำแหน่งในกรณีฉุกเฉิน) , วัดอุณหภูมิน้ำ , มาตรวัดความลึก (ความแม่นยำ บวกลบ 1 เมตร) , วัดระดับออกซิเจนในเลือด , วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , ติดตามการนอนหลับ , ติดตามการตกไข่และช่วงการตกไข่ของผู้หญิงได้
• มีหน้าปัดให้เลือกลากหลาย
• ตัวเรือนทำจากไททาเนียม Titanium
• มีปุ่ม Action button สีส้ม สามารถเลือกตั้งค่าหรือปรับแต่งปุ่มได้ (เรียกง่ายๆว่าปุ่มทางลัด)
• มีไมโครโฟน 3 ตัว สามารถทำให้ได้ยินเสียงได้ชัดเจนในขณะที่สภาพอากาศมีลมแรงก็ตาม
• แบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 60 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน Ultra Low , โหมดทั่วไปสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง
• มี 3 สาย : Trail Loop (ทนทาน แข็งแรงกว่าเดิม) , Alpine Loop (มีตัวล็อกแบบใหม่แน่นกว่าเดิม) และ Ocean Band ทำจากยางฟลูโอโรอีลาสโตเมอร์(เหมาะสำหรับใส่เล่นกีฬาทางน้ำ)

สำหรับราคาของ Apple Watch Ultra รุ่น GPS + Cellular มีเริ่มต้นอยู่ที่ 31,900 บาท จะเริ่มจัดส่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เดือนกันยายน 2022 เป็นต้นไป

ที่มา : apple , gsmarena , apple